ข้ามไปเนื้อหา

อูมิเนโกะ โนะ นากุ โคโระ นิ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อูมิเนโกะ โนะ นากุ โคโระ นิ
Umineko no Naku Koro ni game one cover.
うみねこのなく頃に
แนวนาฏกรรม, สยองขวัญ, รหัสคดี, จิตวิทยาระทึกขวัญ
เกม
ผู้พัฒนา07th Expansion
ผู้จัดจำหน่าย07th Expansion
แนวโดจินซอฟท์, วิชวลโนเวล
แพลตฟอร์มPC
วางจำหน่ายเมื่อ
รายการ
  • Legend of the Golden Witch
    17 สิงหาคม 2007 (คอมิเก็ต 72)
    Turn of the Golden Witch
    31 ธันวาคม 2007 (คอมิเก็ต 73)
    Banquet of the Golden Witch
    16 สิงหาคม 2008 (คอมิเก็ต 74)
    Alliance of the Golden Witch
    29 ธันวาคม 2008 (คอมิเก็ต 75)
    End of the Golden Witch
    16 สิงหาคม 2009 (คอมิเก็ต 76)
    Dawn of the Golden Witch
    29 ธันวาคม 2009 (คอมิเก็ต 77)
    Requiem of the Golden Witch
    16 สิงหาคม 2010 (คอมิเก็ต 78)
    Twilight of the Golden Witch
    31 ธันวาคม 2010 (คอมิเก็ต 79)
    Umineko no Naku Koro ni Tsubasa
    31 ธันวาคม 2010 (คอมิเก็ต 79)
    Umineko no Naku Koro ni Hane
    31 ธันวาคม 2011 (คอมิเก็ต 81)
    Umineko no Naku Koro ni Saku
    4 ตุลาคม 2019
มังงะ
เขียนโดยRyukishi07
สำนักพิมพ์สแควร์เอนิกซ์
กลุ่มเป้าหมายโชเน็ง
อนิเมะโทรทัศน์
กำกับโดยChiaki Kon
อำนวยการสร้างโดยMika Nomura
Hiroyuki Ōmori
Takema Okamura
เขียนบทโดยToshifumi Kawase
สตูดิโอสตูดิโอดีน
ฉาย 2 กรกฎาคม 2552 24 ธันวาคม 2552
ตอน26 (รายชื่อตอน)
Other

Golden Fantasia (เกมต่อสู้)

อูมิเนโกะ โนะ นากุ โคโระ นิ (ญี่ปุ่น: うみねこのなく頃にโรมาจิUmineko no Naku Koro ni) เป็นเกมนิยายภาพโดจินชิแนวสืบสวนสยองขวัญที่ผลิตโดย 07th Expansion เกมนี้บทแรกได้วางขายครั้งแรกในงานคอมิเก็ต 72 ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550 โดยใช้เล่นในคอมพิวเตอร์ และเป็นผลงานชิ้นที่สองจากยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง

เนื้อเรื่องย่อ

[แก้]

เหตุการณ์ใน Umineko no Naku Koro ni เกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 4 และ 5 ตุลาคม 1986 บนเกาะที่ชื่อว่า"รคเค็นจิมะ" เมื่อหัวหน้าตระกูลอุชิโรมิยะที่มั่งคั่งและเป็นเจ้าของเกาะได้ล้มป่วยลง หมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่ถึง 3 เดือน ทำให้บรรดาลูกหลานทั้งหมด 11 ชีวิต ได้นัดหมายมาประชุมบนเกาะรคเค็นจิมะเพื่ออภิปรายเกี่ยวกับการแบ่งมรดกเมื่อหัวหน้าตระกูลตายลง

เมื่อบรรดาลูกหลานมาถึงเกาะรคเค็นจิมะในวันที่ 4 ตุลาคม พายุไต้ฝุ่นได้เริ่มก่อตัวขึ้น ในตอนนั้นเองก็มีจดหมายลึกลับจากผู้ที่อ้างว่าเป็น"แม่มดเบอาตรีเช"แห่งตำนานของเกาะรคเค็นจิมะ ในจดหมายกล่าวว่าจะเก็บ”ดอกเบี้ย”ของเงินที่หัวหน้าตระกูลเคยยืม โดยจะยกเลิกการเก็บดอกเบี้ยเมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งสามารถแก้ปริศนาที่ซ่อนทองคำ 10 ตันของหัวหน้าตระกูลได้ ทำให้บรรดาลูกหลานและคนรับใช้บนเกาะรวม 18 ชีวิตสนใจเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมผ่านพ้นไป...

ในวันที่ 5 ตุลาคมช่วงเช้า พายุไต้ฝุ่นยังคงเข้าถล่มเกาะรคเค็นจิมะ แต่แล้วบรรดาคนบนเกาะต่างก็ต้องช็อคกับการฆาตกรรมอันน่าขนลุกขนพอง เมื่อมีเหยื่อเสียชีวิตถึง 6 ศพภายในคืนเดียว การฆาตกรรมที่แสดงถึงความโหดร้ายทารุณ เรือ , โทรศัพท์ หรือแม้กระทั่งสัญญาณวิทยุถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง คนบนเกาะไม่สามารถออกจากเกาะรคเค็นจิมะได้ และในขณะเดียวกันฆาตกรที่อ้างว่าเป็นแม่มดก็ไม่สามารถหนีจากเกาะได้เช่นกัน พูดง่ายๆก็คือ มันเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องระทึกขวัญบนเกาะปิดตายนั่นเอง

ใครจะเป็นรายต่อไป การสืบสวนเพื่อ”ตามหา”ฆาตกร แต่ในขณะเดียวกันก็ต้อง”เอาชีวิตรอด”จากฆาตกร การฆ่าคน 6 คนพร้อมกันอย่างโหดเหี้ยม การฆาตกรรมในห้องปิดตาย การทำให้เหยื่อออกจากห้องโดยไม่ทิ้งร่องรอย การฆาตกรรมที่มีแต่แม่มดเท่านั้นที่ทำได้ การเล่นสงครามจิตวิทยาและการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ใครคือฆาตกร แม่มด? หรือมนุษย์? ทั้งหมดคือส่วนที่น่าตื่นเต้นของเรื่อง

แบทเลอร์กล่าวว่า "ชั้นจะพิสูจน์ให้ดูเองว่ามันเป็นฝีมือของมนุษย์!!!"

บทต่างๆ

[แก้]
บทที่ 1 Legend of the Golden Witch

บทนี้เป็นบทเปิดม่านเรื่องราวของ Umineko no Naku Koro ni โดยเนื้อหาจะมองผ่านมุมมองของแบทเลอร์ เป็นบทที่ปูพื้นเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิม่า, ตระกูลอุชิโรมิยะ, ตัวละครต่างๆ, ตำนานของแม่มดเบอาตรีเช่แห่งเกาะรคเค็นจิม่า

บทที่ 2 Turn of the Golden Witch

เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของเมดสาวชาน่อน เหตุการณ์ที่เกิดต่างจากบทแรก, ทั้งความรักของจอร์จกับชาน่อน ความรักของเจสซิก้ากับคาน่อน บทนี้จะมีพลังเหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้องมากขึ้น เมื่อ "แม่มดเบอาตรีเช่" ปรากฏตัวซะเอง และรวมทั้งพลังเวทมนตร์ที่ซ่อนเร้นของตัวละคร

บทที่ 3 Banquet of the Golden Witch

เป็นที่อยู่ในมุมมองของ เอวา เบอาตรีเช่ แม่มดคนใหม่ที่มาแทน เบอาตรีเช่ เหตุการ์ที่แตกต่างจากบทแรก ทั้งอดีตของเอวา และเด็กสาวลึกลับที่มีนามว่า แองเจ

บทที่ 4 Alliance of the Golden Witch

ต่อจาก บทที่ 3 อยู่ใหนมุมมองของ แองเจ เบอาตรีเช่ ซึ่งเป็นการย้อนอดีตกลับมาที่เหตุการณ์ฆาตกรรมในรคเค็นจิมะ, เรื่องราวเบื้องหลังของแองเจ เบอาตรีเช่ และสาเหตุที่เธอมาช่วยแบทเลอร์

บทที่ 5 End of Golden Witch
บทที่ 6 Dawn of Golden Witch
บทที่ 7 Requiem of the Golden Witch

เป็นบทที่มองผ่านมุมมองของวิลลาร์ด เอช ไรท์ เจ้าหน้าที่จากหน่วย SSVD ที่สืบคดีเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะโดยมีอุชิโรมิยะ ลีออน ที่เป็นลูกของนัตสึฮิ เป็นผู้ช่วยตามคำท้าทายของเบิร์นคาสเทล ที่ว่า 'ใครเป็นคนฆ่าเบอาตรีเช' ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างลีออน,แคลร์และเบอาตรีเช กฎของ SS Van Dine ทั้ง 20 ข้อ อดีตของคินโซ และยาสุ

บทที่ 8 Twilight of the Golden Witch

บทสรุปส่งท้ายเกมแห่งเสียงร่ำไห้ของนางนวล ในบทนี้เป็นมุมมองของอุชิโรมิยะ แองเจ น้องสาวของแบทเลอร์ ที่พยายามตามหาความจริงบนเกาะรคเค็นจิมะเมื่อ 12 ปีก่อน และได้แบทเลอร์เป็นคนเปลี่ยนปาฎิหาย์ช่วงที่แองเจ เมื่อตอน 6 ขวบไม่ได้มา ให้มาได้ ความลับในอดีตที่แบทเลอร์ไม่สามารถบอกแองเจได้คืออะไร 'ทำไมถึงต้องโกหกหนูด้วย?'

เพลงประกอบอนิเมะ

[แก้]

Katayoku no Tori (เพลงเปิด)

[แก้]

ขับร้องโดย Shikata Akiko ใช้เพลงนี้เปิดทุกบท แต่มีการเปลี่ยนแปลงภาพเนื้อหาในบางส่วนให้เข้ากับบทนั้นๆ

La divina tragedia ~Makyoku~ (เพลงปิด)

[แก้]

ขับร้องโดย JIMANG

ตัวละคร

[แก้]
ตัวละครของเรื่อง Umineko (จากซ้ายไปขวา) :
แถวแรก: คินโซ, เคร้าส์, นัตสึฮิ, เจสซิก้า
แถวสอง: นันโจ, เอวา, ฮิเดโยชิ, จอร์จ
แถวสาม: รูดอล์ฟ, คิริเอะ, แบทเลอร์
แถวสี่: เก็นจิ, โรซ่า, มาเรีย
แถวห้า: ชาน่อน, คาน่อน, โกวดะ, คุมาซาวะ

ตระกูลอุชิโรมิยะ

[แก้]
อุชิโรมิยะ คินโซ (右代宮 金蔵、Ushiromiya Kinzō)
คินโซเป็นหัวหน้าตระกูลอุชิโรมิยะ ตัวเขานั้นป่วยมานานและคาดว่าจะไปจากโลกในอีกไม่ช้า คินโซนั้นเกลียดชังบรรดาลูกๆ ทั้ง 4 คนมาก โดยการคิดว่าบรรดาลูกเปรียบเสมือนแร้งที่คอยรุมทึ้งทรัพย์สมบัติ และนอกจากนี้คินโซยังมีงานอดิเรกแปลกๆ เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ดำอีกด้วย ความปรารถนาสูงสุดคือการได้พบกับ ”เบอาตรีเช” แม่มดสีทองอีกครั้ง
อุชิโรมิยะ เคลาส์ (右代宮 蔵臼、Ushiromiya Krauss)
เคลาส์เป็นลูกชายโตของคินโซ มีอายุมากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้ง 4 เคลาส์นั้นเป็นนักลงทุน แต่เขากลับไม่สามารถที่จะแบกรับมันไว้ได้ และในท้ายที่สุดผลลัพธ์ของมันก็คือความล้มเหลว เขามักถูกวิจารณ์จากน้องๆ ว่าพยายามที่จะฮุบมรดกของบิดาเป็นของตนเองคนเดียว เป็นเพียงครอบครัวเดียวที่อาศัยในคฤหาสน์ของคินโซ
อุชิโรมิยะ นัตสึฮิ (右代宮 夏妃、Ushiromiya Natsuhi)
นัตสึฮิเป็นภรรยาของเคลาส์ เธอเป็นคนทะนงตัวและภูมิใจในความเป็นอุชิโรมิยะ ทั้งที่ความจริงแล้วนัตสึฮิไม่ได้มีสายเลือดของอุชิโรมิยะใดๆ เลยก็ตาม และบ่อยครั้งที่เธอมักมีอาการปวดหัวกำเริบ เธอพยายามดูแลความเรียบร้อยของตระกูลแทนสามีที่ปล่อยปละละเลยชื่อเสียงของตระกูลอุชิโรมิยะ และมักจะทำให้เธอมีปัญหาทะเลาะกับคนอื่นๆในตระกูลเสมอ
อุชิโรมิยะ เจสซิก้า (右代宮 朱志香、Ushiromiya Jessica)
เจสซิก้าเป็นเด็กสาววัยรุ่นอายุ 18 ปี เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเคลาส์และนัตสึฮิ ได้รับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลอุชิโรมิยะดังนั้นจึงถูกนัตสึฮิผู้เป็นแม่เข้มงวดเป็นพิเศษ ทำให้เธอไม่ชอบแม่ตัวเองเท่าไหร่นักและยังไม่สนในตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลอีกด้วย เธอสนใจในตัวคานอน
อุชิโรมิยะ เอวา (右代宮 絵羽、Ushiromiya Eva)
เอวาเป็นบุตรสาวคนโตของคินโซ และอายุมากเป็นอันดับสองในบรรดาพี่น้องทั้งสี่ แม้ว่าหล่อนจะแต่งงานแล้วแต่ก็ยังสามารถชักจูงสามีเปลี่ยนนามสกุลตามได้ จึงยังคงนามสกุลเดิมของตนได้อยู่ หล่อนเป็นคนฉลาดเจ้าเล่ห์ และมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเป็นอริกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ซึ่งบุคลิกด้านมืดของเธอก็ทำให้ก่อกำเนิดเป็นเอวา-เบอาตรีเชนั่นเอง
อุชิโรมิยะ ฮิเดโยชิ (右代宮 秀吉、Ushiromiya Hideyoshi)
สามีของเอวา ฮิเดโยชิเป็นประธานของธุรกิจร้านอาหารฟาสต์ฟูดขนาดกลางที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นคนเชื้อสายคันไซ มีนิสัยร่าเริงและมักเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเมื่อเกิดการทะเลาะกันระหว่างพี่น้องทั้งสี่
อุชิโรมิยะ จอร์จ (右代宮 譲治、Ushiromiya George)
จอร์จเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเอวากับฮิเดโยชิ อายุ 23 ปี มีอายุมากที่สุดในบรรดาลูกพี่ลูกน้องของเขา มีบุคลิกเป็นคุณชายผู้เพรียบพร้อมทั้งมารยาทและสติปัญญา และมักได้รับการยกย่องจากพวกญาติๆ ในด้านวุฒิภาวะ เขากำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยพร้อมทั้งทำงานในบริษัทของบิดาไปด้วย เขาสนใจในตัวชานอนอย่างจริงจัง
อุชิโรมิยะ รูดอลฟ์ (右代宮 留弗夫、Ushiromiya Rudolf)
ลูกชายคนที่ 2 ของคินโซที่มีอายุมากเป็นอันดับ 3 จากทั้งหมด รูดอลฟ์เป็นพ่อของแบทเลอร์ตัวเอกของเรื่อง หลังจากที่ภรรยาคนแรกของเขาเสียไปก็แต่งงานใหม่ทันที เป็นสาเหตุให้แบทเลอร์แยกตัวออกไปจากตระกูลอุชิโรมิยะอยู่พักหนึ่ง มักถูกมองว่าเป็นคนเจ้าชู้ ภรรยาคนแรกของเขาชื่ออาสุมุ
อุชิโรมิยะ คิริเอะ (右代宮 霧江、Ushiromiya Kyrie)
คิริเอะเป็นภรรยาคนที่สองของรูดอลฟ์ และก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนร่วมงานของรูดอลฟ์มาก่อนด้วย เธอเป็นนักวางแผนที่ฉลาดและวิเคราะห์สถานการณ์ได้ดี ทำให้เป็นที่ไว้วางใจของรูดอลฟ์มาก แบทเลอร์ไม่ได้นับถือเธอเป็นแม่ แต่เป็นเหมือนพี่สาวมากกว่า ซึ่งก็ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่เลวร้ายนักสำหรับทั้งคู่ ทฤษฎีที่เธอชอบใช้ในเวลาแก้ปัญหาคือ ทฤษฎีพลิกกระดานหมากรุก
อุชิโรมิยะ แบทเลอร์ (右代宮 戦人、Ushiromiya Battler)
เป็นตัวเอกของเรื่อง เขาเป็นลูกชายของรูดอลฟ์กับภรรยาคนแรก มีอายุ 18 ปีเท่ากับเจสสิก้า เป็นเด็กหนุ่มที่มีนิสัยหัวแข็งไม่ชอบยอมแพ้ แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนพอตัว หลังจากที่มีเรื่องทะเลาะกับพ่อทำให้เขาไม่ได้มาประชุมตระกูลเป็นเวลาหกปีแล้ว หลังจากที่เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆ ในเรื่องเริ่มที่จะเชื่อในการดำรงอยู่ของ "เบอาตรีเช" แบทเลอร์กลับพยายามที่จะใช้เหตุผลมาอธิบายคดีฆาตกรรมว่าเป็นฝีมือของมนุษย์
อุชิโรมิยะ โรซ่า (右代宮 楼座、Ushiromiya Roza)
เป็นลูกสาวคนสุดท้องของคินโซ โดยปกติมีนิสัยสงบเสงี่ยมเรียบร้อย และมีอิทธิพลในตระกูลน้อยเมื่อเทียบกับพี่ๆ ของเธอ แต่กับลูกสาว (มาเรีย) แล้วเธอจะมีนิสัยเข้มงวดมากจนแทบเปลี่ยนเป็นคนละคนเลยทีเดียว เธอเป็นผู้บริหารกิจการออกแบบซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้ประสพความสำเร็จมากนัก เรื่องราวเกี่ยวกับสามีของเธอยังไม่เป็นที่กระจ่างชัดและไม่มีใครในตระกูลกล้าพูดถึง
อุชิโรมิยะ มาเรีย (右代宮 真里亞、Ushiromiya Maria)
ลูกสาวอายุเก้าขวบของโรซา มาเรียมีความสนใจในเรื่องเวทมนตร์และแม่มดมาก รวมถึงยังเชื่อและศรัทธาในตำนานของเบอาตรีเชอย่างแรงกล้า ซึ่งอาจทำให้เธอไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน และยังมีเรื่องกับโรซาผู้เป็นแม่บ่อยๆ ด้วย อย่างไรก็ดีมาเรียก็ยังเป็นเด็กสาวผู้แสนซื่อไร้เดียงสา และนิสัยหัวอ่อนเชื่อคนง่าย มีคำพูดติดปากก็คือ "อูว์ อูว์" (うーうー)จนกระทั่งในภาคถัดมาเธอได้รับบทบาทการเป็นแม่มดอย่างแท้จริง ในชุดทหารรัสเซียสีดำ เธอมีอำนาจต่างๆประดุจแม่มดเบอาตรีเช เนื่องจากแม่มดเบอาตรีเชสร้างเธอใหม่และเลี้ยงดูเธออย่างดีเหมือนเป็นแม่ แม้ว่ามาเรียจะรักเบอาตรีเชและมีความศรัทธามากมายเพียงใด มาเรียก็ไม่ได้ลืมแม่ของเธอเลย เธอยังนึกถึงแต่แม่ของเธอเพื่อแก้แค้นที่ทำกับเธอและซากุทาโร่ ราวกับว่าซากุทาโร่มีจิตใจ และได้ให้วิญญาณกับตุ๊กตาสิงโตสีเหลืองที่ชื่อซากุทาโร่ในที่สุด

คนงานในคฤหาสน์

[แก้]
นันโจ เทรุมาสะ (南條 輝正, Nanjō Terumasa)
แพทย์ประจำตัวของคินโซ และยังเป็นเพื่อนสนิท แล้วยังเป็นคู่แข่งบนกระดานหมากรุกของคินโซอีกด้วย เขาเปิดคลินิกบนเกาะนิอิจิม่า เกาะที่อยู่ใกล้กับรคเค็นจิม่า
โรโนเอ เกนจิ (呂ノ上 源次, Ronoue Genji)
หัวหน้าคนรับใช้ในคฤหาสถ์ของคินโซ เขาเป็นคนที่คินโซไว้ใจมากที่สุด และมีลำดับสูงสุดในกลุ่มคนรับใช้
ชานอน (紗音, Shanon)
เมดสาวในคฤหาสถ์ของคินโซ ชื่อจริงของเธอ คือ ซาโย เธอเป็นคนใจดีและเชี่ยวชาญเรื่องงานบ้าน แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเป็นบางครั้ง เธอเข้าใจฐานะตัวเองว่าเป็นสิ่งของมากกว่าที่จะเป็นมนุษย์ เช่นเดียวกับคานอนผู้ที่เธอมองเป็นน้องชาย เธอมีความรู้สึกต่อจอร์จ เธอถือเป็นลำดับที่ 2 ของกลุ่มคนรับใช้ทั้งหมด
คานอน (嘉音, Kanon)
คนรับใช้หนุ่มในคฤหาสถ์ของคินโซ ชื่อจริงของเขา คือ โยชิยะ เขาเป็นคนที่จริงจังกับงานมาก ทำตามที่เจ้านายสั่งอย่างเคร่งครัด ชานอนเป็นเหมือนพี่สาวของเขา เขามีความรู้สึกต่อเจสซิก้า แต่ยังคงซ่อนความรู้สึกนั้นเอาไว้ เพราะเขาคิดว่าตัวเองเป็นสิ่งของ ไม่คู่ควรกับมนุษย์ เขาถือเป็นลำดับที่ 3 ของกลุ่มคนรับใช้ทั้งหมด
โกดะ โทชิโระ (郷田 俊朗, Gōda Toshirō)
คนทำอาหารในคฤหาถ์ของคินโซ ต่างจากคนใช้คนอื่น เขาถูกจ้างมาโดยเคลาส์และนัตสึฮิ จึงมีลำดับชั้นที่ต่ำกว่าคนอื่น เขาภูมิใจกับความสามารถการทำอาหารมาก ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานที่โรงแรมก่อน และด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าของเขา ทำให้ดูถูกชานอนและคานอน เป็นบางครั้ง
คุมาซาวะ จิโยะ (熊沢 チヨ, Kumasawa Chiyo)
คนงานพาร์ทไทม์ที่รับงานบ้านทั่วไปในคฤหาสถ์ของคินโซ เธอเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากคนในครอบครัว และชอบเล่าเรื่องต่างๆ กับมุกตลกโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับปลาแม็กคอเรล

เหล่าแม่มด

[แก้]
เบอาตรีเช กัสติลโยนี (ベアトリーチェ・カスティリオーニ、Beatrice Castiglioni)

เบอาตรีเชเป็นคุณหนูประจำตระกูลอุชิโรมิยะ แต่ถูกฆาตกรรมและวิญญาณของเธอยังวนเวียนอยู่ จึงเป็นที่มาของตำนานแม่มดเบอาตรีเชที่มาเรียชอบพูดถึงบ่อยๆ มักจะถูกทุกคนเรียกว่า "เบอาโตะ" รู้จักกันในนาม "แม่มดสีทอง" มีความสามารถในการควบคุมชีวิตและความตาย สามารถอัญเชิญสิ่งของต่างๆได้หลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น สามารถอัญเชิญ "หอคอยเพียงไหล่" ที่สร้างหอคอยที่สามารถยิงหอกแห่งแสงได้ในระหว่างที่สู้กับเวอร์กิลเลีย ตัวของเบอาตรีเชรู้ดีว่า "เวทมนตร์นิรันดร์" นี้มีเพื่อสร้างภาพมายาทุกชนิด และทำลายได้ตลอดกาลไม่มีที่สิ้นสุด เป็นคู่แข่งของอุชิโรมิยะ แบทเลอร์

แองเจ-เบอาตรีเช (エンジェ・ベアトリーチェ、Ange-Beatrice)

เป็นแม่มดที่ประกฎตัวในช่วงหลังในโลกของเธอ เธอเป็นน้องสาวของมาเรีย แต่ทว่าย้อนอดีตกลับมาในโลกที่มาเรียยังเป็นเด็กอยู่โดยมาพร้อมกับลูกน้อง 7 คน ที่เรียกว่า "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" ซึ่งชื่อพี่น้องเหล่านั้นตั้งตามปีศาจในบาปทั้งเจ็ดของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอร์ลิค อันที่จริงเธอคือน้องสาวของแบทเลอร์ ไม่ใช่มาเรีย เธอเป็นที่รู้จักของแม่มดในนาม "แม่มดแห่งการคืนชีพ" ความสามารถของเธอคือการคืนชีพ เธอถูกสอนเรื่องเวทมนตร์มาจากร่างแม่มดของมาเรียผ่านไดอารี่ของมาเรีย ด้วยความที่เธอเป็นเบอาตรีเชคนต่อมา เธอจึงมีความสามารถในการอัญเชิญเหมือนเบอาตรีเชรุ่นก่อนๆได้ และเพราะเธอย้อนอดีตมา 12 ปี จากอนาคต เธอจึงมีทักษะด้านเวทมนตร์ที่สูงมาก จึงเป็นที่หวาดกลัวของเหล่าแม่มดด้วยกันเอง

มาเรีย-เบอาตรีเช (マリア・ベアトリーチ、Maria-Beatrice)

รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งการเริ่มต้น" เป็นแม่มดที่เกิดจากอุชิโรมิยะ มาเรีย มีคู่หูคือซากุทาโร่ที่เกิดจากตุ๊กตาสิงโตของเธอ เธอมีพลังเวทมนตร์ที่สามารถให้กำเนิดหนึ่งจากทะเลถึงศูนย์ แม้ว่าคุณจะคูณศูนย์ไปเท่าไหร่ มันจะไม่ยอมเป็นศูนย์ สามารถสร้างเหล่าขนมให้ตกจากท้องฟ้า สามารถเนรมิตอาหาร และสามารถควบคุมสภาพอากาศได้

เวอร์กิลเลีย (ワルギリア、Vergillia)

แม่มดผมขาว สวมหมวกและมีท่าทางในแบบผู้ดีที่สุดในบรรดาแม่มดทั้งหมด เป็นคนเงียบๆ ปกติจะอยู่ในร่างหญิงแก่ประจำบ้านอุชิโรมิยะ แต่เดิมเป็นครูของเบอาตรีเช และเป็นสุดยอดแม่มดที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งการจำกัด" เธอมีพลังเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งพอที่จะปะทะกับเบอาตรีเชได้ สามารถบิน,เคลื่อนย้ายตัวเอง,สร้างเกราะเวทย์เพื่อป้องกัน และอัญเชิญค้อนศักดิ์สิทธิ์ "มโจเนีย"และหอกศักดิ์สิทธิ์ "กังเนียร์" เธอชอบปิดตาตัวเองเพราะสามารถกลบเกลื่อนหรือเพิ่มพลังเวทย์ให้กับตนได้นั่นเอง

เอวา-เบอาตรีเช (エヴァ・ベアトリーチェ、Eva-Beatrice)

เด็กสาวแม่มดอีกคนที่ปรากฏตัวในรื่อง มีผมสีส้ม สวมชุดโลลิต้าสีม่วง-ดำ มีนิสัยโหดเหี้ยมคล้ายเบอาตรีเช เธอเป็นร่างแยกในด้านลบของอุชิโรมิยะ เอวา แน่นอนว่าพลังเวทย์ของเธอส่วนใหญ่ก็จะมาจากเบอาตรีเชนั่นเอง มีความสามารถในการสร้างสิ่งของต่างๆ สามารถอัญเชิญเหล่าคนใช้ (ในที่นี้จะเรียกว่าเฟอร์นิเจอร์) ของเบอาตรีเชได้อย่าง "เหล่าพี่น้องแห่งบาป" หรือโรนอเว่ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่เธอจะใช้พวกซีเอสต้าเพราะความแข็งแกร่งของพวกนั้นนั่นเอง พลังที่เธอต้องการมากคือการฟื้นคืนจากความตาย และการฆ่าทุกทางเพียงเพื่อจะซ้ำว่าเธอเบื่อ สามารถปลอมแปลงตัวเองเป็นอุชิโรมิยะ เอวาได้

ซากุทาโร่ (さくたろう、Sakutaro)

เป็นตุ๊กตาสิงโตที่มาเรียเล่นด้วยตอนเด็กๆ ถูกทำให้กลายเป็นมนุษย์เพราะมาเรียอยากเป็นเพื่อนด้วย

เบิร์นคาสเทล (ベルンカステル、Bernkastel)

รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งปาฏิหาริย์" แม่มดผมยาวสีน้ำเงิน ชุดสีดำ มีนิสัยนิ่ง เงียบ สามารถทำลายหรือฆ่าทุกสิ่งได้เพื่อความสนุกของเธอเอง มีอาวุธคือเคียวสีดำ ที่สามารถแยกปาฎิหาริย์จากความเป็นจริงได้

แลมบ์ดาเดลต้า (ラムダデルタ、Lambdadelta)

รู้จักกันในนาม " แม่มดแห่งความเสถียรภาพ" แม่มดอีกคนที่อยู่กับเบิร์นคาสเทล แม่มดผมสั้นสีบลอนด์ มักปรากฏตัวในชุดหวานๆสีชมพูอ่อน เป้าหมายของเธอคือการกักขังเบิร์นคาสเทลให้อยู่ใน "เกม" ระหว่างอุชิโรมิยะ แบทเลอร์ กับ เบอาตรีเช ไปตลอดกาลนั่นเอง

เอริกะ ฟุรุโดะ (古戸ヱリカ、Furudo Erika)

รู้จักกันในนาม "แม่มดแห่งความจริง" แต่เดิมเป็นนักสืบที่เก่งกาจ มากความสามารถ และให้คำตอบของปริศนาต่างๆได้เป็นอย่างดี สุดท้ายเธอเสียชีวิตและได้ถูกนำมาเข้าพวกกับเบอาตรีเช และเป็นแม่มดเอริกะในที่สุด เธอมีผมสีน้ำเงินอ่อน มักปรากฏตัวในชุดโบสีชมพู เบิร์นคาสเทลเคยพูดไว้ว่า ตัวเอริกะนั้นจริงๆแล้วเป็นภาพที่ถูกสร้างตามความคิดของเบิร์นคาสเทลขึ้นมาเอง

เฟียเธอรีน ออร์กัสตัส ออโรร่า (フェザリーヌ・アウグストゥス・アウローラ、Featherine Augustus Aurora)

แม่มดที่ปรากฏตัวเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับชุดญี่ปุ่นสีชมพูและผ้าคาดสีเขียว เป็นแม่มดที่ถือกำเนิดจากฮาจิโจ อิคุโกะ(ฮาจิโจ โทยะ) ผู้เขียนนิยายลึกลับที่เขียนเกี่ยวกับเกาะรคเค็นจิมะ เป็นที่รู้จักในนาม "แม่มดแห่งการละคร" และ "ผู้สร้าง" เธอคือคนที่แข็งแกร่งมากถึงขนาดทำให้เบิร์นคาสเทลกลัว บางครั้งเธอก็เบื่อที่จะมีชีวิตนานๆ จึงรีบมีชีวิตแล้วก็ตาย แลมบ์ดาเดลต้า เคยพูดไว้ว่าความทรงจำของเฟียเธอรีนถูกกระทบกระเทือนจนทำให้นิสัยและการแต่งตัวเปลี่ยนไป

แกพ (ガァプ、Gaap)

ปีศาจผมลอนสีส้มในชุดเซ็กซี่สีแดง ได้รับฉายาว่า "รูปปั้นปีศาจ"

โรนอเว่ (ロノウェ、Ronove)

ทหารองครักษ์ของเวอร์กิลเลีย ได้รับฉายาว่า "พ่อบ้านปีศาจ"

ซีเปอร์ (ゼパル、Zepar)

ปีศาจผมสีฟ้าอ่อนเป็นลอน สวมชุดเหมือนเมดสีดำสลับขาว จริงๆเธอเป็นเพศชายในชุดเมดแบบผู้หญิง

ฟูฟู (フルフル、Furfur)

ปีศาจสาวผมสีส้มสวมชุดคล้ายซเปอร์ แต่เป็นสีเหลือง เป็นฝาแฝดกับซีเปอร์ ทั้งคู่เลยได้รับฉายาว่า "ปีศาจแห่งรัก"

แคลร์ เวอซ์ เบอร์นาร์ดัส (クレル・ヴォーブ・ベルナルドゥス、Clair Vaux Bernardus)

แม่มดสีขาว เป็นแม่มดที่รู้จักกันในนามแม่มดบริสุทธิ์

ถ้าเรียงลำดับคนที่เป็นเบอาตรีเชก่อน-หลังจะได้อย่างนี้ เวอร์กิลเลีย--->เบอาตรีเช--->เอวา-เบอาตรีเช--->มาเรีย-เบอาตรีเช--->แองเจ-เบอาตรีเช

ไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา

[แก้]
ดรานอร์ เอ น็อกซ์ (ドラノール・A・ノックス、Dlanor A Knox)

หัวหน้าของเหล่าไอเซอร์เนอะ มีผมขาวและแขนข้างซ้ายเป็นเหล็กจึงเป็นที่มาของชื่อ [ไอเซอร์เนอะ จุงเฟรา Eiserne Jungfrau เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า หญิงเหล็ก] มีนิสัยเยือกเย็นและจริงจังต่อหน้าที่มาก

คอร์เนเลีย (コーネリア、Cornelia)

สาวใช้ผมสั้นสีน้ำตาลในชุดซิสเตอร์สีน้ำเงิน เธอเป็นเสนาธิการของไอเซอร์เนอะ

เกอร์ทรูด (ガートルード、Gertrude)

สาวใช้ที่มีหน้าตาคล้ายคอร์เนเลีย มีผมสีน้ำตาลอ่อน สวมชุดเดียวกับคอร์เนเลีย เธอเป็นเสนาธิการชั้นสูงสุดของไอเซอร์เนอะ

เหล่าพี่น้องแห่งบาป

[แก้]

เหล่าพี่น้องแห่งบาปมีชื่อตามปีศาจประจำบาปในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาร์ทอลิค ทั้งสามใส่เครื่องแบบนักเรียนเหมือนกัน

ลูซิเฟอร์ (ルシファー、Lucifer)

เป็นพี่โตสุด ลูซิเฟอร์ตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งยะโส มีนิสัยโหดเหี้ยมเหมือนกับเหล่าแม่มดที่สร้างตนขึ้นมา มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "ลูซี่" Lucie

เลวีอาธาน (レヴィアタン、Laviathan)

เลวีอาธานเป็นตัวแทนของบาปแห่งความริษยา มีนิสัยขี้แย เป็นน้องสาวของลูซิเฟอร์ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "วีต้า" Vita

ซาตาน (サタン、Satan)

ซาตานเป็นตัวแทนของบาปแห่งโทสะ เธอเป็นน้องสาวคนที่ 3 ของพี่น้องแห่งบาปทั้งหมด เป็นคนโกรธง่ายสมชื่อ โดยมักทำอะไรไม่เข้าเรื่อง ชอบโกรธอยู่คนเดียว ลักษณะของเธอมีผมสีขาวสั้น ม้วนเป็นลอน มักถุกเรียกชื่อเล่นว่า "ซาตาน่า" Satana

เบลเฟกอร์ (ベルフェゴール、Belphegor)

เบลเฟกอร์เป็นตัวแทนของบาปแห่งความเกียจคร้าน เป็นคนเฉื่อยชาตามชื่อ แต่เป็นคนที่ทำงานอย่างสมเหตุสมผลที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "เบล" Bel

แมมมอน (マモン、Mammon)

แมมมอนเป็นตัวของบาปแห่งความโลภะ มีความเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด เธอมักทำงานรับใช้แม่มดได้ดีเพื่อหวังผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ จึงได้ชื่อว่าเป็นคนโลภสมชื่อ แต่กระนั้นมองในแง่ดีก็เหมือนว่าเธอเป็นคนที่จริงจังต่องานมากที่สุด มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แมกม่า" Magma

เบลเซบับ (ベルゼブブ、Beelzebub)

เบลเซบับเป็นตัวแทนของบาปแห่งความตะกละ แต่จริงๆแล้วในเรื่องเธอก็มีหุ่นดีเหมือนพี่น้องคนอื่นๆ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "บีเอล" Beel

แอสโมเดียส (アスモデウス、Asmodeus)

อัสโมเดียสเป็นตัวแทนของบาปแห่งตัณหาราคะ หากเธอตกหลุมรักใครจะทุ่มเทให้อย่างเต็มที่ มีความหื่นมากสมชื่อ มักถูกเรียกชื่อเล่นว่า "แอสโม่" Asmo

เหล่าซีเอสต้า

[แก้]

เหล่าซีเอสต้า แต่เดิมเป็นกระต่ายของเล่นของมาเรียที่ถูกทำให้มีชีวิต หน้าตาของเหล่าซีเอสต้าจึงคล้ายกระต่าย มีหูและห่างเหมือนกระต่ายนั่นเอง

ซีเอสต้า 410 (シエスタ410、Siesta410) หรือ ซีเอสต้า โยงอิจิมารุ

เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีฟ้า เธอยิ้มและหัวเราะได้ตลอดเวลา มีผมสีเขียว ไว้ผมสั้น มีนิสัยโหดเหี้ยม ซาดิสม์ มีความร่าเริงที่สุดในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน

ซีเอสต้า 45 (シエスタ45、Siesta45) หรือ ซีเอสต้า ยงจูโกะ

เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีแดง มีผมสีชมพู ไว้ผมยาว เป็นคนขี้อาย ทำอะไรชักช้าถ้าไม่มีซีเอสต้า 410 คอยช่วย โดยปกติเป็นคนค่อนข้างเอ๋อ พูดติดอ่างอยู่บ่อยๆ

ซีเอสต้า 00 (シエスタ00、Siesta00) หรือ ซีเอสต้า ดับเบิลโอ (ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า "ดาบุรุโอะ")

เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษสีดำ มีผมยาว สีบลอนด์ เป็นคนเงียบๆ ดูภายนอกก็มองออกได้ถึงความหยิ่งยโสในตัว

ซีเอสต้า 556 (シエスタ556、Siesta556) หรือ ซีเอสต้า โกโกะโระกุ

เธอสวมใส่ยูนิฟอร์มแบบทหารอังกฤษม่วง มีผมสั้นสีดำ ในหมู่ซีเอสต้าด้วยกัน ดูเหมือนเธอจะเป็นคนที่ปกติที่สุด

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

[แก้]

เว็บไซต์ผู้ติดตามผลงาน

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]

อ้างอิงชื่อ

[แก้]

ยามเมื่อเหล่านางนวลร่ำไห้ ไม่มีชื่อไทยอย่างเป็นทางการ แต่โดยส่วนมากจะมีความหมายว่า "เมื่อ-นกนางนวล-ร่ำร้อง" เนื่องจากชื่อในภาษาญี่ปุ่นที่เป็นต้นฉบับเรียกว่า อุมิเนโกะ โนะ นาคุ โคโระ นิ หรือ うみねこのなく頃に โดยคำว่า うみねこ แปลว่า นกนางนวล คำว่า なく แปลว่า ร้องไห้ และคำว่า แปลว่า เมื่อ, ณ บัดนั้น จึงอาจจะมีความหมายว่า เมื่อนกนางนวลร่ำไห้ เวลาที่เหล่านางนวลร่ำร้อง หรือ When the Seagulls Cry ในภาษาอังกฤษ